Tag Archives: lekanit

หาดทรายแก้ว-2

ไม่ได้ออกไปวาดรูปนอกสถานที่นานมาก…
ชักคิดถึงเสียแล้วสิ
นั่งรื้อค้นรูปเก่าๆมาดูแล้วก็ยิ่งกระตุ้นต่อมติสท์

อืม…เดือนหน้าพายุจะหมดยังน๊อ…

เกาะหมากๆ ทราบแล้วเปลี่ยน…

(นี่เป็นภาพที่วาดจาก หาดทรายแก้ว ในบริเวณโรงเรียนชุมพลทหารเรือ สัตหีบ)

บึงน้ำทอง

สองอาทิตย์ก่อนโน้น ผมมีโอกาสเข้าไปเดินเล่นในสวนรถไฟ
เกือบหกโมงเย็นหลังฝนเพิ่งหยุดตกไม่นานนัก
หลายๆ พื้นที่ในนั้น ยังมีน้ำขังอยู่ และผืนหญ้าก็ยังชุ่มน้ำพอให้เดินเฉาะแฉะได้
ผมย่ำเดินไปตามทางเรื่อยๆ สลับกับมองตามจักรยานที่เด็กๆขี่แซงผมไปเป็นระยะๆ

อากาศหลังฝนตกโดยเฉพาะในสวนสาธารณะแห่งนี้ มันเย็นสบายจริงๆ
เดินได้ไม่รู้จักเหนื่อยเลยทีเดียว

ผมเดินไปแวะชมวิวชมสวนไปจนกระทั่งมาถึงด้านหลังของสวน
ดูเหมือนบริเวณนั้นจะห่างเหินจากเครื่องตัดหญ้ามาพอสมควร
หญ้าแข่งกันสูงจนถึงหัวเข่า…
บางที่เป็นแอ่งน้ำขัง แทรกแซมไปกับทุ่งหญ้า

จังหวะที่ผมเดินไปถึง สายตาทำมุมพอดีกับแสงสีทอง
ซึ่งน่าจะเป็นแสงสุดท้ายของวันนั้นแล้ว
สีทองฉาบไปบนผิวน้ำสวยงามน่าดูจริงๆ

ผมหยุดมองดูอยู่หนึ่งเพลิน…
แล้วก็จินตนาการไปถึงทุ่งหญ้าในป่าใหญ่ที่เคยๆไปพบเห็นมา
มันติดตาประทับใจ นึกถึงยังไงภาพนั้นก็ยังแจ่มชัด
วันจันทร์ถัดมา เลยมานั่งวาด…
วาดจากจินตนาการนี่แหล่ะครับ…
วาดขณะพักเที่ยง ที่ทำงานเสียเดียว…

เฮอะๆ ไม่มีใครรู้ว่าผมไปเที่ยวป่าในวันทำงานผ่านคอมฯบนโต๊ะนี่เอง…

ปล. ผมวาดด้วยสีจากในเวบนี้แหล่ะครับ http://sketch.odopod.com/

โปรดอย่าถาม…

โปรดอย่าถามว่าฉันเหนื่อยไหม?

โปรดอย่าถามว่าฉันร้อนไหม?

โปรดอย่าถามว่าฉันเหงาไหม?

ฉันยังไม่มีคำตอบที่สวยหรูพอ

ขอเพียงซอกหินเล็กๆ ให้ฉันได้หยั่งราก

ขอเพียงน้ำค้างสักหยดแก้กระหาย

ตราบที่ยังมีแสงสว่างของวันใหม่

คำว่า”ตาย”…สะกดไม่เป็น

ภาพ – davemerica

หวานสีน้ำ (4) – น้ำหวานหรือยาพิษ?

ความรัก มันเหมือนวัดดวง
ที่ใครก็ไม่รู้ ปรุงน้ำวิเศษแล้วส่งให้เราดื่ม
บางคนสุข บางคนทุกข์
สุดแล้วแต่ใครจะไปได้ขวดไหนมา…

ฉะนั้น ก่อนจะรับมา…ก็เปิดตาให้กว้างๆ นะครับ…

หวานสีน้ำ (3) – ยอมรับ แต่ไม่ยอมเข้าใจ

…แหม คนเรามันก็ต้องมีโรมานซ์กันบ้าง

“ประตูใจเปิดกว้าง ทางรักยาวไกล”

อ่านแล้วห้ามอ๊วกนะครับ ฮ่าๆๆ 😀

หวานสีน้ำ (2) – ฝน

เคยเล่นอะไรอย่างนี้ไหม?

เอาน้ำทะเลมาเทลงบนทราย

เสร็จแล้วก็รีบขุดหาน้ำที่เทลงไปเมื่อกี้

ด้วยความตั้งใจว่า จะต้องขุดให้ทัน

ไม่ต้องเสียเวลาคิด ก็ตอบได้ว่ายากมาก…

แต่ผมก็ห่ามพอจะเล่นอะไรบ้าๆอย่างนี้ไปได้

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน (ฮา)

6. นกกินปลีคอแดง

สมัยเด็กๆ ผมมีความเชื่อว่า นกที่มีสีสันสวยงาม จะมีแค่นกแก้ว กับนกหงษ์หยก
แล้วก็คิดว่า นกสองชนิดนี้เป็นนกที่เพาะเลี้ยงเอาเท่านั้นด้วย
ส่วนที่โบยบินอยู่ตามป่าตามเขา จะมีแต่สีขาว เทา ดำ แล้วก็น้ำตาล
สรุปง่ายๆ ก็คือ ผมคิดว่า นกป่า ไม่สวยเหมือนนกเลี้ยง
ไม่เคยคิดว่า ธรรมชาติก็ยุติธรรมพอที่จะให้สีสันกับนกอีกหลายชนิดหลายสายพันธุ์
นี่คือ ความคับแคบทางโลกทัศน์ประสาเด็ก…

ค่อยมาค้นพบความงามของนกในธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ในภายหลัง
และหนึ่งในชนิดของนก ที่ทำให้ผมถึงกับตะลึง และหลงใหลมาก
ขนาดอยากจะเห็นตัวเป็นๆ ก็คือนกชนิดนี้ครับ

เค้าเรียก…นกกินปลีคอแดง

ผมเคยเห็นนกกินปลีบ่อยๆ ตามสวน ตามป่า
แต่ไม่ใช่นกกินปลี ชนิดนี้ สีนี้

ดูสิครับ สีแดงสะใจ สวยไม่แพ้นกแก้ว นกมาร์คอว์ เลย
ใครก็ไม่รู้ตั้งชื่อง่ายๆ แบบนี้ให้กับมัน
ผมว่า ชื่อนี้มันช่างเหมาะเจาะ ซื่อๆ ง่ายๆ น่ารักสมตัวดีจริงๆ
เหมือนกับเราได้ยินชื่อเรียกของเด็กๆ ว่า ไอ้แดง ไอ้ดำ นั่นแหล่ะครับ
น่ารักกว่า แจ๊ค จ๊อด เบิร์ด บีม ซะอีก…

นกกินปลี เป็นนกขนาดเล็กถึงเล็กมากครับ
บางชนิดดูดกินน้ำหวานจากดอกไม้เสียด้วย
ผมเลยมักจะเหมารวมเป็น ฮัมมิ่งเบิร์ดไปโน่นเลย
โดยขณะนั้น ยังไม่รู้ว่า เค้ามีชื่อว่า นกกินปลีนะครับ
ผมไม่ใช่ผู้ชำนาญการเรื่องนกหรอก อย่าให้อธิบายลงรายละเอียดเลย
เดี๋ยวจะรู้ว่า ผมไปคัดลอกจากที่อื่นมาแปะให้อ่าน
ดูภาพที่ผมวาดดีว่าครับ…

นี่เป็นภาพวาดนก ที่ผมชอบมากภาพหนึ่งครับ…
ผมใช้เวลาวาดน้อยมาก และสนุกมากด้วย

ดูจากการใช้สีสิครับ สดใส และผิดพลาดน้อยกว่าภาพอื่นๆ มาก
ผมชอบนะ…
และผมก็หลงตัวเองด้วย ฮ่าๆๆ

เขาใหญ่…แต่”เขา”ใหญ่กว่า

ปัญหาหนึ่งของคนไทยคือ
การขาดจิตสำนึกร่วม
ไม่ว่าจะเป็นสเกลเล็กๆ หรือสเกลใหญ่ๆ ระดับชาติ
ไม่เชื่อลองมองไปที่รอบๆตัวเราสิครับ
มีปัญหาง่ายๆ ปัญหาพื้นๆ ที่เราแก้ไม่ได้สักที
ปัญหาเรื่อง “วินัย” ไงครับ
ทุกคนรู้ดี แต่เราก็ไม่ประสบผลสำเร็จในการสร้างวินัยเลย

หรือว่าพวกเรามีปัญหาเรื่องมุมมอง…
ที่บางเรื่องอาจดูเหมือนมีผลกระทบเล็กน้อยในสายตาคนกลุ่มหนึ่ง
ขณะที่แท้จริงแล้ว นั่นเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมโลก

โดยเฉพาะมุมมองเรื่องสิ่งแวดล้อม
ผมไม่แน่ใจว่า คนไทยตื่นตัวในทุกระดับหรือเปล่า
หรือว่า แกล้งๆ ตื่นตัวไปตามกระแสโลกร้อนไปอย่างนั้นเอง…

ประเทศไทยเหลือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ
และเราก็ยังเห็นภาพข่าวทำลายล้างบาดตาอยู่เรื่อยๆ เช่นกัน

วันนี้ มาถึงคิวของมรดกโลกอย่าง “เขาใหญ่” ครับ
กรมทางหลวง เกิดจะนึกเป็นห่วงเรื่องความสะดวกสบายของคนใช้รถใช้ถนน
ใช้ความเข้มแข็ง ของงบไทยเข็มแข็งมาขยายถนนขึ้นเขาใหญ่ซะ
ผมหมายถึงถนนธนะรัชต์ ที่จากเดิมมี 2 เลน ก็คิดจะเนรมิตให้เป็น 8 เลน
เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร

อู้หู…กรมทางหลวงอ้างว่าประชาชนต้องการ และรถจะติดมากในช่วงเทศกาล
ผมสงสัยจริงๆ ว่าประชาชนที่ว่านี่ เจ้าของรีสอร์ทแถวนั้นหรือเปล่า คงมิใช่ชาวไร่แถวๆ นั้นแน่ๆ
เพราผืนดินริมถนนย่านนั้น ตอนนี้ตกอยู่ในมือนายทุนหมดแล้ว

หลับตานึกดู…ตอนนี้ มีต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีสังเวยชีวิตไปแล้ว 128 ต้น
ผลพลอยได้จากการตัดไม้เหล่านี้ จะไปตกลงที่ตักใคร ไม่รู้ได้
นี่เป็นผลกระทบโดยตรงต่อหน้าต่อตา
ทว่า ระยะยาวล่ะ คือผลกระทบที่ไม่อาจคำนวณได้เลย
ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ระดับมรดกโลก กำลังโดน “กระชับพื้นที่” เข้าไปทุกทีๆ

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว มีการกังวลกันว่า
เขาใหญ่ อาจถูกลดระดับลงจากการเป็นมรดกโลก
นั่นอาจหมายความว่า สภาพป่าเขาใหญ่ อาจจะไม่น่าไว้วางใจในอนาคตเสียแล้ว
ถนนเส้นนี้ ตัดตรงส่งเข้าไปในเขตอุทยานฯ ได้ยินว่ามีความยาว 24 กิโลเมตร
ได้มา 10 กิโลเมตรแล้ว ที่เหลือคงจะไม่ช้าก็เร็ว

ผมไม่อาจเข้าใจจริงๆ
ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเรา เค้ายืนอยู่มุมไหนของโลกกันนะ…

เขาใหญ่ วันนี้
กำลังจะมี “เขา”ที่ใหญ่กว่า…
คำว่า “พัฒนา” จะต้องเกิดจากคนที่มี”ปัญญา”เท่านั้น

น่าเศร้าใจจริงๆ

พวกเราจะต้องช่วยกระจายข่าวนี้ออกไป
ให้คนน้ำลายไหลได้อับอาย…

ช่วยกันครับ…
อย่าให้งบ “ไทยเข้มแข็ง” มาทำให้ “โลกอ่อนแอ” เลย

อ่านข่าว – http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1275228384&grpid=01&catid=

พุทธ…มิใช่ศาสนาของคนไทย?

เมื่อสักครู่ ผมไปพบภาพนี้ โดยบังเอิญครับ
เป็นรูปปั้นพระพุทธรูป ทำจากดินเผา แล้วมาทาทับด้วยสีอครายลิค
เป็นผลงานศิลปะชื่อ Zen Buddha ของศิลปินอเมริกันชื่อ Rodney Alan Greenblat


ดูแล้ว รู้สึกยังไงบ้างครับ
ผมว่า น่ารักดี เรียบง่าย จริงใจ เหมือนพุทธที่ไม่ปรุงแต่ง
เหมือนไปเห็นผลงานศิลปินพื้นบ้าน ที่ไม่ประสีประสากับรูปแบบทางศิลปะใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ก็ปั้นด้วยจิตที่เลื่อมใส ศรัทธา

ด้วยความอยากรู้ว่าฝรั่งคนนี้ ปั้นล้อเลียนเอาสนุก หรือสนใจพุทธจริงๆ
เลยตามดูผลงานแกไปเรื่อยๆ
ผมว่า แกสนใจศาสนาพุทธจริงๆ นะครับ
มีรูปปั้นแบบนี้อีก 4-5 ชิ้น และภาพวาดอีกหลายภาพ
ที่คิดว่าได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาทางพุทธ

ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า
ศิลปินจะไม่สร้างงานศิลปะใดๆ ออกมา โดยไม่ศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ ก่อน
การสร้างสรรค์แต่ละครั้ง ศิลปินจะต้องใช้พลังที่ผลักดันมาจากจิตใจที่เต็มร้อย

ทุกชิ้นงาน คือความจริงใจ
แม้ว่า พวกเขาจะทำออกมาแล้วขายก็ตาม


เป็นเรื่องที่น่าดีใจนะครับ
ที่ศาสนาพุทธได้แทรกซึมไปทั่วโลกแล้ว
และเริ่มแสดงตนผ่านงานศิลปะแขนงต่างๆ โดยฝีมือชาวต่างชาติที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธโดยกำเนิด


ประเด็นก็คือ พุทธ กำลังจะหยั่งรากลึกลงในดินแดนไกลโพ้น
แต่ที่นี่…ดินแดนแห่งพุทธที่ฝังรากมายาวนานนับร้อยปี

ไม่แน่ใจว่า วันนี้พวกเรายังลึกซึ้งในความเป็นพุทธอยู่แค่ไหน
คำตอบอยู่ที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์รายวันอยู่แล้วนะครับ

ไม่รู้ว่า ผมควรจะ”ดีใจ” หรือ “เศร้าใจ” ก่อนกันดี

ภาพจาก – http://www.whimsyload.com/cgi-bin/shop/newsearch.cgi?keyword=BuddhistArt

อย่าเชื่อ…ถ้ายังไม่ได้คิด

“อย่าเชื่อหรือถือเอาสิ่งใด ๆ เพียงการฟังตาม ๆ กันมา…

อย่าเชื่อเพียงที่ถือสืบกันมา…

อย่าเชื่อเพียงข่าวลือ…

อย่าเชื่อโดยอ้างตำรา…

อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอา…

อย่าเชื่อโดยการคาดคะเน…

อย่าเชื่อเพียงตรึกคิดไปตามอาการ…

อย่าเชื่อเพียงเพราะตรงกับความคิดเห็นของตน…

อย่าเชื่อเพียงเพราะน่าเชื่อถือ…

อย่าเชื่อเพียงเพราะว่าสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา”

จำกันได้หรือเปล่าครับ…สิบบรรทัด สิบประโยคข้างบนนี้

ใครเป็นคนกล่าวเอาไว้…

คำตอบคือ “พระพุทธเจ้า” ครับ

พระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนชาวกาลามะ ไว้ ถึงเรื่อง”การเชื่อ”

โดยทรงมิให้เชื่อสิ่งที่ท่านตรัสสอนออกไป โดยไม่ได้คิดด้วยสติปัญญาของตนเอง

แต่เมื่อได้พิจารณา สอบสวนด้วยตนเองแล้ว เห็นว่าคำสอนนั้นมีหลักฐาน มีเหตุผลจึงสมควรเชื่อ

เหตุการณ์ร้ายๆ ในบ้านเมืองเรา

ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของการเชื่อ โดยไม่ไตร่ตรอง

ผมหมายความถึง ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนของสังคมไทยเลยนะครับ

ลับ – ลวง – พราง ตลอดจนข่าวปล่อย ข่าวลือ ช่าวปั่น

พาคนลงสู่หุบเหวของความวุ่นวายนับหมื่นนับแสน

ไหนๆ ก็จะถึงวันวิสาขบูชา อีกครั้งแล้ว

ลองนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเตือนสติพวกเรากันเองอีกครั้ง ดีไหมครับ

ความสงบสุขของบ้านเมืองที่แท้จริง

เริ่มจากตรงนี้แหล่ะครับ…